รายงานฉบับล่าสุดจากซิเนอร์เจีย แอนนิมอลเผยสถาบันการเงินขาดนโยบายด้านสวัสดิภาพสัตว์และระบบอาหารที่ยั่งยืน
53% ของธนาคารจากทั่วโลกไม่มีนโยบายเพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์หรือส่งเสริมทางเลือกอาหารจากพืชอัตราการมีส่วนร่วมโดยเฉลี่ยด้านสวัสดิภาพสัตว์และอาหารจากพืชอยู่ที่ 10% เท่านั้น
กรุงเทพ - 18 เมษายน 2024 องค์กรพิทักษ์สัตว์นานาชาติ ซิเนอร์เจีย แอนนิมอล ได้เผยแพร่รายงานฉบับล่าสุด หัวข้อ มากกว่าผลกำไร: ผลวิเคราะห์สถาบันการเงินทั่วโลก กับนโยบายเพื่อสวัสดิภาพสัตว์และระบบอาหาร (ใช้ภาษาอังกฤษว่า Beyond Profits: Global Review of Financial Institutions in Animal Welfare and Food Systems) งานศึกษาฉบับนี้วิเคราะห์สถาบันการเงิน 80 แห่งจาก 22 ประเทศทั่วโลก เผยว่าภาคการเงินเพิกเฉยประเด็นสวัสดิภาพสัตว์และระบบอาหารที่ยั่งยืน
ประเด็นสำคัญจากการประเมินสถาบันการเงินทั่วโลกเน้นย้ำแนวโน้มที่น่าเป็นกังวล อัตราการมีส่วนร่วมของสถาบันการเงินทั้งหมดมีเพียง 10% เท่านั้น และสถาบันการเงินมากกว่า 53% ได้ศูนย์คะแนน แม้จะมีธนาคาร 11 แห่งปรับปรุงนโยบายให้ดีขึ้นจากปี 2023 สถาบันการเงินชื่อดังอย่าง Goldman Sachs และ ICBC กลับมีนโยบายที่ล้าหลังกว่าเดิม
สัญญาณเตือนต่อสถาบันการเงิน
Merel van der Mark หัวหน้าฝ่ายสวัสดิภาพสัตว์และภาคการเงินจากซิเนอร์เจีย แอนนิมอล กล่าวว่า “โลกของเรากำลังเผชิญกับปัญหาที่ไม่เคยมีมาก่อน เช่นวิกฤตสภาพภูมิอากาศ สาธารณสุข และความไม่มั่นคงด้านอาหารที่แย่ลงเรื่อยๆ ถึงเวลาแล้วที่ทุกภาคส่วนที่เกียวข้องจะต้องดำเนินการแก้ปัญหา เราได้ประเมินธนาคารต่างๆ ในการรับมือกับวิกฤตดังกล่าว โดยใช้เกณฑ์ประเมิน 21 ข้อ ได้แก่ นโยบายไม่ให้เงินกู้ต่อระบบที่โหดร้ายที่สุดต่อสัตว์ในฟาร์ม หรือกิจการที่ส่งผลเสียอื่นๆ เช่น การค้าสัตว์ป่า การทดลองกับสัตว์ทั้งทางการแพทย์และไม่ใช่ทางการแพทย์ และการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างขาดความรอบคอบ เรายังประเมินด้วยว่าสถาบันการเงินเหล่านี้มีนโยบายส่งเสริมอาหารทางเลือกจากพืชหรือไม่”
ธนาคารกรุงไทยได้คะแนนเพียง 2% ของคะแนนเต็มทั้งหมด ในขณะที่ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ไม่ได้เลยสักคะแนน ส่วนธนาคารระดับนานาชาติอย่าง Triodos, de Volksbank, Australian Ethical, Rabobank, และ ABN Amro ยังคงยึดห้าอันดับสูงสุด ในฐานะธนาคารที่มีนโยบายด้านสวัสดิภาพสัตว์และความยั่งยืนในระบบอาหารที่ดีที่สุด
รายงานยังเผยอีกว่าสถาบันการเงินส่วนใหญ่ล้าหลังในการปฏิบัติตามข้อเรียกร้องด้านการคุ้มครองสัตว์ และการเปลี่ยนแปลงระบบอาหาร ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องขององค์กรระดับนานาชาติหลายแห่ง เช่น สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (United Nations Assembly) ได้เรียกร้องทุกภาคส่วนให้มีความตั้งใจมากกว่าเดิมในการทำให้สุขภาพและสวัสดิภาพสัตว์แข็งแรงขึ้น โดยเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญต่อการปฏิบัติตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน นอกจากนี้ ที่ประชุม COP28 ยังได้ประกาศเจตนารมณ์ว่าจะให้ความสำคัญกับระบบอาหารที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่น และการรับมือต่อวิกฤตสภาพภูมิอากาศ กลุ่มประเทศองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development - OECD) ได้ปรับปรุงแนวปฏิบัติ โดยเพิ่มเนื้อหาเกี่ยวกับสวัสดิภาพสัตว์ และองค์กรอนามัยโลก ก็ได้เรียกร้องให้รับประทานอาหารที่มาจากพืชเป็นหลักมากขึ้น ซึ่งดีต่อสุขภาพและมีความหลากหลาย
“ธนาคารมีพลังและความรับผิดชอบในการสร้างอนาคต ที่สวัสดิภาพสัตว์ ภูมิอากาศ และสุขภาพมนุษย์ เป็นส่วนหนึ่งของวิธีการทางเศรษฐกิจ รายงานฉบับนี้ถือเป็นสัญญาณเตือนสำหรับภาคการเงิน ให้เริ่มมองเห็นความสำคัญของความยั่งยืนในระยะยาว แทนที่จะเป็นผลกำไรระยะสั้น และเห็นความสำคัญของสวัสดิภาพสัตว์” Merel กล่าวเสริม
การเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องสิ่งที่ดีกว่า
รายงานฉบับนี้ยังกล่าวถึงกรณีศึกษาของการรณรงค์ซึ่งขอให้ธนาคารสัญชาติเนเธอร์แลนด์ Rabobank เริ่มใช้นโยบายสวัสดิภาพสัตว์ เพื่อบังคับให้คู่ค้าอย่างบริษัทค้าปลีกนานาชาติ เช่น แม็คโคร และ Ahold Delhaize เลิกสั่งซื้อไข่ไก่จากฟาร์มที่ขังแม่ไก่ไว้ในกรงในทุกประเทศทั่วโลกที่ดำเนินการอยู่ รวมถึงกลุ่มประเทศรายได้ต่ำกว่า เช่น อาร์เจนตินา โคลอมเบีย และอินโดนีเซีย
"ด้วยแคมเปญนี้ เราต้องการเน้นย้ำบทบาทที่สำคัญของสถาบันการเงินในการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก การให้เงินกู้แก่บริษัทในอุตสาหกรรมอาหารที่ไม่เปลี่ยนแปลงห่วงโซ่อุปทาน ให้ปราศจากการกระทำที่โหดร้ายต่อสัตว์ ถือว่าย้อนแย้งนโยบายเชิงบวกซึ่ง Rabobank ได้ประกาศไว้อยู่แล้ว การมีนโยบายที่ดียังไม่พอ ธนาคารยังต้องตรวจสอบว่ามีการดำเนินการจริง" Merel กล่าว
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของธนาคารอื่นๆ สามารถหาได้ในรายงานฉบับเต็ม หัวข้อ มากกว่าผลกำไร: ผลวิเคราะห์สถาบันการเงินทั่วโลก กับนโยบายเพื่อสวัสดิภาพสัตว์และระบบอาหาร ซึ่งดาวน์โหลดได้ที่ www.banksforanimals.org อีกทั้งเว็บไซต์นี้ยังช่วยให้ผู้บริโภคส่งข้อความถึงสถาบันต่างๆ เพื่อขอให้ธนาคารปรับปรุงนโยบาย
"เราหวังว่าธนาคารจะมองว่านี่คือโอกาสในการทำสิ่งที่ดีกว่า ธนาคารมีโอกาสผลักให้ตนเองขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ดีกว่าเดิมได้ในปีต่อไปเมื่อเราดำเนินการประเมิน และทำให้ประชาชนเห็นนโยบายของพวกเขา" Merel สรุป
Comments