ภาพจากการสืบสวนล่าสุดในอินโดนีเซียพิสูจน์ความโหดร้ายทารุณของอุตสาหกรรมไข่ไก่
วันนี้ ซิเนอร์เจีย แอนิมอลส่งภาพจากการสืบสวนล่าสุดให้ผู้สื่อข่าวภาพถ่ายแสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายในกระบวนการผลิตไข่ในประเทศอินโดนีเซีย
คาโรลิน่า กาลวานี ประธานกรรมการบริหาร ซินเนอร์เจีย แอนิมอลกล่าว
ว่า “หนึ่งในภารกิจของซินเนอร์เจีย แอนิมอล คือการแฝงตัวเข้าไปสืบสวนเพื่อเปิดโปงความลับอันดำมืดของอุตสาหกรรมปศุสัตว์ การสืบสวนในประเทศอินโดนีเซียพิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่าสัตว์ที่ใช้ในการผลิตอาหาร โดนทารุณในแบบที่คนส่วนใหญ่จินตนาการไม่ถึง” น่าเศร้าที่การเลี้ยงสัตว์ในกรงถือเป็นเรื่องธรรมดา จากการศึกษาอุตสาหกรรมปศุสัตว์ เกือบ 88% ของไข่ในประเทศอินโดนีเซียมาจากการผลิตในระบบที่เรียกว่า “กรงตับ” เราเลือกภาพเหล่านี้มาให้คุณดู เพื่อแสดงให้เห็นว่าไข่ไก่ในประเทศอินโดนีเซียมาจากไหน
แม่ไก่ใช้ชีวิตทั้งชีวิตในพื้นที่แคบๆ เล็กกว่ากระดาษ A4 เดินและกางปีกเต็มที่ไม่ได้
ความสะอาด รวมถึงความปลอดภัยของอาหารเป็นเรื่องที่น่ากังวลมาก พื้นของโรงเลี้ยงไก่มักปกคลุมไปด้วยขี้ไก่”
ไก่ที่ตายแล้วก็มักจะถูกปล่อยไว้ให้เน่าคากรง ท่ามกลางเพื่อนๆ ของพวกเขา โดยไม่คำนึงถึงสุขลักษณะ
ไก่เป็นสัตว์ที่มีนิสัยอยากรู้อยากเห็น ฉลาด และอยู่ไม่นิ่ง และแม้ในสภาพแวดล้อมแบบนี้พวกเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งรอบตัว
เป็นเพราะว่าในกรงมีจำนวนแม่ไก่มากเกินไป ปีกแม่ไก่ครูดกับกรงลวดตลอดเวลา ทำให้ขนร่วง
แม่ไก่ไม่มีอะไรช่วยปกป้องเท้า ต้องใช้ชีวิตทั้งชีวิตยืนบนลวดโลหะ ทำให้เกิดบาดแผลและเจ็บปวดอย่างมาก
แม่ไก่บางตัวตาบอดเพราะการอักเสบซ้ำซ้อน
โรงเลี้ยงไก่เต็มไปด้วยแมลง
การศึกษาทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญได้สรุปว่า ด้วยระบบกรงขังแบบปิดทำให้สัตว์ทุกข์ทรมานจากความเครียดและความอึดอัดทั้งชีวิตและมีปัญหาสุขภาพ มีแต่ความเจ็บปวด เช่น ปัญหากระดูกอ่อนแอและโรคกระดูกพรุน
กรงตับถือเป็นระบบที่โหดร้ายทารุณและถูกสั่งห้ามใน 30 ประเทศ รวมถึงประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป นิวซีแลนด์ และแคนาดา ในประเทศสหรัฐอเมริกา มีรัฐที่มีกฏหมายบังคับห้ามกรงแบบนี้ทั้งหมด 7 รัฐ
น่าเสียใจที่ความจริงจากการสืบสวนที่ประเทศอินโดนีเซียไม่ได้แตกต่างจากสิ่งที่แม่ไก่ในประเทศไทยต้องเผชิญ เราต้องยุติความโหดร้ายทารุณเช่นนี้ และวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยสัตว์คือ การหยุดเลิกกินเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์นม และไข่