top of page

9 เหตุผล ที่ไม่มีใครสักคนควรกินไข่


การผลิตไข่ไก่ถือเป็นอุตสาหกรรมที่โหดร้ายที่สุดระบบหนึ่งในการปศุสัตว์ แต่ปัญหาของไข่มีมากว่าแค่ความโหดร้ายทารุณต่อสัตว์ ไข่ยังเป็นโทษต่อสุขภาพของมนุษย์ และต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

วันนี้เราจะมาบอก 9 เหตุผลที่ไม่มีใครสักคนควรกินไข่

1. แม่ไก่ใช้ทั้งชีวิตอยู่ในพื้นที่ที่เล็กกว่ากระดาษเอสี่

ไก่ไข่ส่วนใหญ่ถูกเลี้ยงในระบบที่เรียกว่ากรงตับ พวกเขาต้องใช้ทั้งชีวิตอยู่ในกรงแออัด ไม่มีพื้นที่มากพอให้กางปีกเต็มที่ เดินไปเดินมา หรือทำพฤติกรรมตามธรรมชาติเช่นการจิกพื้นดิน คุ้ยเขี่ยหาอาหาร ตัวเบียดกับกรงลวดตลอดเวลาทำให้ขนร่วง นอกจากจะต้องทนทุกข์กายแล้วก็ยังมีอาการทางประสาทอีกด้วย มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์แล้วว่าไก่เป็นสัตว์ที่มีความอยากรู้อยากเห็น และต้องการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ไก่ตัวอื่นๆ เมื่อต้องอยู่ในสภาพแบบนี้ ไก่จึงมีความเครียดและหงุดหงิดมาก

2. ลูกไก่ตัวเมียจะถูกตัดจะงอยปากตั้งแต่เพิ่งเกิด

ลูกไก่ตัวเมียที่เพิ่งเกิดได้ไม่เท่าไหร่ จะถูกส่งไปตัดจะงอยปากด้วยแท่นเหล็กร้อนๆ อุตสาหกรรมต้องทำแบบนี้เพื่อป้องกันการจิกทำร้ายกันเอง เนื่องจากว่าเขาจะถูกนำไปเลี้ยงในกรงที่แออัด และก็เป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะจิกกัดกันเองเนื่องจากความเครียด ซึ่งอาจนำไปสู่การกินเนื้อของพวกเดียวกันเองและทำให้ไก่ตายเป็นจำนวนมาก

3. ส่วนลูกไก่ตัวผู้จะถูกบดทั้งเป็น

ใครหลายๆ คนอาจจะไม่เชื่อเมื่อได้ยินเรื่องนี้ แต่น่าเศร้าที่มันเป็นเรื่องจริง ลูกไก่ตัวเมียที่เกิดใหม่จะถูกนำไปเลี้ยง และจับใส่กรงเพื่อเป็นแม่ไก่รุ่นใหม่ที่มาแทนที่แม่ไก่รุ่นเก่าที่ออกไข่ได้น้อยลง ส่วนลูกไก่ตัวผู้ซึ่งไม่มีประโยชน์ใดๆ ต่ออุตสาหกรรมก็จะถูกฆ่าด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยมอย่างที่สุด เช่นถูกบดทั้งเป็นในเครื่องบดอุตสาหกรรม หรือถูกจับยัดถุงพลาสติกเพื่อให้ขาดใจตาย

4. เมื่อแม่ไก่ออกไข่ได้ลดลง พวกเขาจะถูกส่งไปโรงเชือด

ไก่ป่าที่อยู่ตามธรรมชาติจะมีอายุขัยประมาณ 10 ปี แต่ในอุตสาหกรรมไข่ไก่ เมื่อร่างกายของพวกเขาถูกใช้ผลิตไข่จนอ่อนล้าจนออกไข่ได้ไม่มากพอที่จะทำกำไรให้กับบริษัทแล้ว พวกเขาจะถูกส่งไปโรงเชือดเมื่อมีอายุไดเพียงสองปีเท่านั้น แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมไข่ไก่ไม่ได้ไร้พิษมีภัยต่อสัตว์เหมือนอย่างที่ใครหลายๆ คนเข้าใจ แต่อุตสาหกรรมไข่ไก่โหดร้ายไม่แพ้อุตสาหกรรมเนื้อไก่เลย (หรืออาจจะโหดร้ายมากกว่าด้วยซ้ำ)

5. การบริโภคไข่มากเกินไปเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคเกี่ยวกับเส้นเลือด

เป็นเรื่องที่ชัดเจนอยู่แล้ว ไข่เป็นอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง และการบริโภคอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูงเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด ได้แก่โรคหัวใจและโรคหลอดเลือดในสมองแตกหรือตีบตัน คอเลสเตอรอล 300 มิลลิกรัมต่อวันเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคเกี่ยวกับเส้นเลือดขึ้นถึง 17% และเพิ่มความเสี่ยงในการเสียชีวิตถึง 18% ไข่ต้มหนึ่งฟองมีคอเลสเตอรอล 186.5 มิลลิกรัม การกินไข่เพียงสามฟองในหนึ่งสัปดาห์ก็มากพอแล้วที่จะทำให้เกิดความเสี่ยงเป็นโรคเกี่ยวกับเส้นเลือดและเสียชีวิต

6. และก็ยังเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งต่อมลูกหมากและเร่งอัตราการลุกลามอีกด้วย

งานวิจัยโดยมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดระบุว่า ผู้ชายที่กินไข่เพียงไม่ถึงฟองต่อวันมีความเสี่ยงในการป่วยเป็นโรคะเร็งต่อมลูกหมากสูงกว่าผู้ชายที่ไม่ค่อยกินไข่ถึงสองเท่า นอกจากนี้ก็ยังมีโอกาสในการกลับมาเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากสูงกว่าอีกด้วย งานวิจัยสรุปว่า อาจะเป็นเพราะสารโคลินที่มีในไข่ไปกระตุ้นให้เกิดอาการอักเสบในร่างกาย

7. อุตสาหกรรมผลิตไข่เป็นภัยต่อสาธารณสุขโลก เนื่องจากปนเปื้อนเชื้อแซลโมเนลลา

ในประเทศสหราชอาณาจักร มีคนนับสิบที่ป่วยหลังจากกินไข่ที่ปนเปื้อนแซลโมเนลลา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยกว่าที่เราคิด เชื้อแซลโมเนลลาอาจะส่งผลรุนแรงทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กและผู้สูงอายุ การปนเปื้อเชื้อแซลโมเนลลาเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ่อยมาก เนื่องจากระแบบการเลี้ยงที่แออัดเบียดเสียด

8. คนกินก็เลยต้องกินยาปฏิชีวนะเข้าไปกับไข่ด้วย

เพื่อป้องกันโรคต่างๆ ในระบบการเลี้ยงที่แออัดเช่นนี้ ผู้ผลิตไข่บางรายใช้ยาปฏิชีวนะอย่างต่อเนื่อง แม้สัตว์จะไม่ได้ป่วยก็ตาม ซึ่งก็ทำให้เกิดปัญหาตามมา รายงานจากองค์กรสหประชาชาติกล่าวว่า อาการเชื้อโรคดื้อยาเป็นภัยคุกคามใหญ่ของสาธารณสุขโลก ความปลอดภัยด้านอาหาร และการพัฒนา และยังเกี่ยวข้องโดยตรงกับการใช่ยาปฏิชีวนะอย่างเกินความจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นในคนหรือในฟาร์มเลี้ยงสัตว์

9. อุตสาหกรรมไข่ไก่สร้างมลพิษในน้ำและในดิน

มีบทความมากมายที่กล่าวถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมของการผลิตเนื้อสัตว์ แต่ไข่ก็ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไม่แพ้กัน อุตสาหกรรมไข่ไก่ก่อมลพิษในน้ำและในดิน นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโอเวียโด้ ประเทศสเปนได้ศึกษาผลกระทบของอุตสาหกรรมไข่ไก่ และสรุปว่าอุตสาหกรรมไข่ไก่มีผลกระทบต่อน้ำและดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเกี่ยวกับการจัดการของเสีย อาหารไก่ และการเลี้ยงไก่ไข่รุ่นใหม่มาแทนที่เนื่องจากอายุขัยแสนสั้นของสัตว์ในอุตสาหกรรมนี้

bottom of page