ซิเนอร์เจีย แอนิมอลภูมิใจที่คนของเรากว่า 80% เป็นผู้หญิง
พรุ่งนี้เป็นวันที่ผู้หญิงทั่วโลกจะหยุดทำงาน ซึ่งเป็นไปเพื่อการเรียกร้องความเท่าเทียมทางเพศ และผู้หญิงจากซิเนอร์เจีย แอนิมอลก็จะหยุดทำงานหนึ่งวัน ไม่ว่าจะเป็นสายอาชีพใดๆ ผู้หญิงก็ไม่ได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียมในตำแหน่งผู้นำ รวมถึงสายงานด้านองค์กรพัฒนาเอกชนด้วย เราถือเอาเป็นหน้าที่ที่จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์นี้ เราเป็นองค์กรซึ่งชอบการลงมือทำมากกว่าคำสัญญาอันว่างเปล่า เราขอทำสิ่งที่เราทำได้ในตอนนี้
ซิเนอร์เจีย แอนิมอล ก่อตั้งโดยผู้หญิง และภูมิใจอย่างยิ่งที่มีผู้หญิงอยู่ในตำแหน่งผู้นำถึง 6 จาก 7 คน โดยรวมแล้ว คนในองค์กรเราเป็นผู้หญิง ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงลาตินและเอเชีย หนึ่งในแก่นของภารกิจเราคือพัฒนาศักยาภาพของนักรณรงค์หญิงเหล่านี้ในประเทศกำลังพัฒนา (Global South) เราเชื่อว่าเมื่อเรามอบพลังให้ผู้หญิง และสร้างบรรยากาศที่ทำให้ผู้หญิงมีบทบาทหลัก ประโยชน์จะเกิดแก่ทุกฝ่าย ไม่ใช่แค่เฉพาะตัวผู้หญิงเอง แต่รวมถึงสังคม และสัตว์ด้วย
ผู้สนับสนุนในกลุ่มพิทักษ์สัตว์ กว่า 75% เป็นผู้หญิง ดังนั้นจริงๆ แล้ว ผู้หญิงนี่เองซึ่งเป็นพลังขับเคลื่อนหลักในการเคลื่อนไหวนี้ สถิติดังกล่าวชี้ให้เห็นว่านโยบายสำหรับผู้หญิงที่ดีกว่านี้เป็นเรื่องเร่งด่วน (รวมถึงผู้หญิงข้ามเพศด้วย) ความเห็นและข้อเรียกร้องของผู้หญิงจะต้องได้รับความเคารพ ถึงแม้จะมาจากผู้หญิงเพียงคนเดียวก็ตาม เรื่องนี้ถือเป็นประเด็นด้านความยุติธรรมในสังคม แล้วการพิทักษ์สัตว์ก็เป็นประเด็นด้านความยุติธรรมทางสังคมเช่นเดียวกัน
อคติ ความรุนแรง และการกดขี่หลายๆ อย่างมักคาบเกี่ยวกัน เนื่องจากมีจุดกำเนิดอย่างเดียวกันและใช้ตรรกะอย่างเดียวกันซึ่งก็คือกระบวนการทำให้เป็นวัตถุ หรือการทำให้เป็นอื่น ซึ่งถือเป็นวิธีการกลุ่มผู้มีอำนาจใช้เพื่อกดขี่และละเมิดกลุ่มอื่นๆ ในสังคมเราซึ่งถูกขับเคลื่อนด้วยการแสวงหาผลประโยชน์เป็นหลัก ผู้คนจำนวนมาก สัตว์ต่างๆ และธรรมชาติถูกมองเป็นเพียงทรัพยากร สิ่งของ และเครื่องมือหาผลประโยชน์เพื่อความร่ำรวยของคนจำนวนหนึ่ง
เราเชื่อว่า เราไม่อาจยุติการกดขี่อย่างใดอย่างหนึ่งโดยไม่ร่วมมือกับนักรณรงค์กลุ่มอื่นๆ และสนับสนุนกันเพื่อต่อสู้กับต้นตอหลักของการกดขี่ ไม่ใช่แค่สู้กับปัญหาที่เกิดจากการกดขี่เพียงอย่างเดียว
วันนี้ (เหมือนกับวันอื่นๆ) เราขอเข้าร่วมกับนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรี เพื่อเรียกร้องอิสรภาพ ความเคารพ และความเห็นอกเห็นใจดังเช่นเดียวกับที่เราเรียกร้องให้สัตว์อยู่ทุกวัน แน่นอนว่าเราขอเรียกร้องให้ผู้หญิงทุกกลุ่มรวมถึงผู้หญิงข้ามเพศด้วย เรามีข้อเรียกร้องดังนี้
จ่ายค่าตอบแทนแก่ผู้หญิงที่อยู่ในตำแหน่งเดียวกับผู้ชายให้เท่าเทียม ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในปี 2020 เรายังจะต้องมาเรียกร้องเรื่องนี้อยู่อีก
ให้ในองค์กรมีความหลากหลายของผู้หญิงจากหลากชาติพันธุ์ ถิ่นกำเนิด ประเทศ สีผิว และภาษา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้หญิงจากกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา(ลาตินอเมริกา แอฟริกา และเอเชีย) รวมถึงผู้หญิงข้ามเพศและกลุ่มบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ และอัตลักษณ์ทางเพศ หลากหลายที่มา หลากหลายช่วงอายุ ผู้หญิงที่มีความแตกต่างด้านรูปร่าง และหญิงผู้มีความต้องการพิเศษด้วย
เมื่อทำงานในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศกำลังพัฒนา ขอให้พิจารณาด้วยว่ากฏระเบียบของผู้คนในประเทศเหล่านี้อาจะไม่เสมอภาค และด้วยเหตุนี้เอง ฝ่ายทรัพยากรบุคคลจะต้องให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพของผู้หญิงเป็นที่หนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง LGBTQI+
ให้มีผู้หญิงมากกว่านี้ในตำแหน่งผู้นำ รวมถึงผู้หญิงจากภูมิหลังที่หลากหลาย
ทำให้บรรยากาศการทำงานเป็นมิตรต่อผู้หญิง ความเห็นของผู้หญิงต้องไม่ถูกเมินเฉย ความเป็นอิสระของตำแหน่งงาน และให้ผู้หญิงมีสิทธิ์มีเสียงในกระบวนการตัดสินใจ ส่งเสรืมการร่วมมือกัน ไม่ใช่ให้ผู้หญิงแข่งขันกันเอง
ฟังเสียงผู้หญิงและเชื่อเรื่องที่พวกเขาบอกเล่า ถึงเวลาแล้วที่องค์กรต่างๆ จะจริงจังกับกรณีการล่วงละเมิดทางเพศ และการคุกคามใช้ประโยชน์จากผู้หญิง โดยจัดให้มีกระบวนการสืบสวนที่มีประสิทธิภาพ และให้ผู้หญิงได้มีตำแหน่งงานที่มั่นคง และมีกระบวนการลงโทษผู้ที่ละเมิดผู้หญิง รวมถึงรายงายเกี่ยวกับการละเมิด ซึ่งอาจะไม่ใช่การละเมิดทางเพศ แต่ก็ชัดเจนว่าเป็นการกดขี่ทางเพศ (เช่น หัวหน้าผู้ชายดูถูกผู้หญิง และไม่เคยฟังความเห็น ตำหนิอย่างรุนแรง และอื่นๆ)
ทำให้เงื่อนไขการทำงานเป็นมิตรต่อการตั้งครรภ์ สำหรับแม่ และพ่อด้วย เนื่องจากว่าเราไม่ได้ตั้งท้องได้ด้วยตัวคนเดียว ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่ผู้ชายจะต้องมาร่วมรับผิดชอบลูกและมาช่วยงานบ้านด้วย
ให้ผู้หญิงได้มีโอกาสเป็นผู้นำเสนองานงานต่างๆ การประชุม การสัมนา การฝึกอบรม และอื่นๆ เรียกว่ามีโอกาสให้ผู้หญิงที่ไหน ก็จงมอบโอกาสให้พวกเขา โต๊ะการสัมนาที่เต็มไปด้วยผู้ชาย ถือเป็นความอับอายของกลุ่มการเคลื่อนไหวที่มีผู้หญิงเป็นหลัก ผู้หญิงก็พร้อมจะขึ้นเวทีพูดเหมือนกัน
ยุติวิธีการรณรงค์ ซึ่งใช้ผู้หญิงเป็นวัตถุทางเพศ องค์กรพิทักษ์สัตว์ไม่ควรเป็นผู้กดขี่ไม่ว่าจะในรูปแบบใดหรือต่อกลุ่มใดๆ ก็ตาม และต้องมีความรับผิดชอบ แสดงความเข้าใจต่อผลกระทบของการใช้ร่างกายผู้หญิงและเด็กผู้เป็นวัตถุทางเพศ
เลิกเสียที กับการต่อต้านความอ้วน(fatphobia) และการล้อเลียนร่างกาย (body-shaming) หรือใช้ความกลัวความอ้วนเป็นเครื่องมือในการเผยแพร่วิถีวีแกน และทำให้การเคลื่อนไหวนี้เป็นมิตรต่อผู้หญิงทุกคน ไม่ว่าจะมีร่างกายแบไหนก็ตาม
ส่งเสริมกลุ่มสิทธิสตรีระดับท้องถิ่นและรากหญ้า รับฟังข้อเรียกร้องของพวกเขา ก่อนที่จะไปคาดหวังให้กลุ่มสิทธิสตรีมาสนับสนุนการเคลื่อนไหวเพื่อสัตว์ เพื่อเป็นการสนับสนุนข้อเรียกร้องดังกล่าวนี้ ซิเนอร์เจีย แอนิมอล จะให้ผู้หญิงจากองค์กรเรา ใช้ชั่วโมงทำงาน 2 ชั่วโมง สำหรับการต่อสู้เพื่อสตรี
สนับสนุนโครงสร้างวิถีวีแกนที่เสริมพลังให้กับเกษตรกรสตรี ให้พวกเขาได้มีที่ดินทำกิน ทรัพยากร และเงินกู้ สิทธิแรงงาน และเงื่อนไขการทำงานที่ดี และในขณะเดียวกัน วิถีวีแกนควรจะถือเป็นสิทธิในการเข้าถึงอาหาร และส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งมีราคาเข้าถึงได้สำหรับครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้ถูกเอารัดเอาเปรียบในสังคม
ชี้ให้เห็นความเกี่ยวโยงระหว่างการปศุสัตว์ ภาวะการเปลี่ยนแปลงด้านสภาวะภูมิอากาศ และผลกระทบที่วิกฤตดังกล่าวจะมีต่อผู้หญิงก่อนใครเพื่อน ภาวะอาหารและน้ำขาดแคลน สงคราม และความขัดแย้งภายในประเทศมักจะส่งผลกระทบต่อกลุ่มประชากรที่เปราะบางกว่าเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้หญิงในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา เนื่องจากผู้หญิงเหล่านี้มีกมีความรับผิดชอบในการหาอาหารให้ครอบครัว และเพศมักมีผลต่อการแบ่งปันอาหาร