ซิเนอร์เจีย แองเกิล: ราคาที่แท้จริงของการทำฟาร์มอุตสาหกรรม และใครเป็นคนจ่าย

อุณหภูมิโลกยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปี 2024 กลายเป็นปีที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ตั้งแต่ปี 1850 ยุงถูกพบในไอซ์แลนด์เป็นครั้งแรก ขณะที่ผืนป่าอเมซอน ซึ่งเป็นบ้านของป่าฝนเขตร้อนเกือบหนึ่งในสามของโลก และสามารถดูดซับคาร์บอนได้มากถึง 2 แสนล้านตัน ยังคงถูกตัดทำลายไม่หยุด นี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวของความจริงที่น่าเศร้า และตอนนี้โลกของเรากำลังร้องขอความช่วยเหลือ

แม้ข่าวเหล่านี้จะดูเหมือนอยู่ไกลตัว แต่สาเหตุกลับมาจากสิ่งเดียวกัน วิถีชีวิตของมนุษย์ ในทุกๆ วันเราขับรถ เผาเชื้อเพลิงฟอสซิล และทำลายป่าไม้ แต่ยังมีอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่มักถูกมองข้าม ทั้งที่มีผลกระทบมหาศาลต่อโลกใบนี้ นั่นคือ “การทำฟาร์มปศุสัตว์” (livestock farming)

การเลี้ยงสัตว์เพื่ออาหารคิดเป็นประมาณ 14% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก ตั้งแต่การตัดป่าเพื่อปลูกพืชอาหารสัตว์ ไปจนถึงการปล่อยก๊าซมีเทนจากสัตว์เลี้ยง ระบบนี้ทิ้งรอยเท้าคาร์บอนไว้ตั้งแต่ผืนป่าจนถึงจานอาหารของเราโดยเฉพาะก๊าซมีเทนจากวัว ซึ่งกักเก็บความร้อนได้มากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 80 เท่าในระยะเวลา 20 ปี เร่งให้โลกเข้าสู่วิกฤตสภาพภูมิอากาศเร็วกว่าที่มนุษย์จะรับมือได้

เพื่อตอบสนองความต้องการเนื้อสัตว์ของผู้คนทั่วโลก ผืนป่าแอมะซอนถูกตัดไปแล้วกว่า 1.5 เท่าของพื้นที่ประเทศสเปน ระหว่างปี 1978-2020 การทำลายนี้ไม่เพียงแค่ทำลายถิ่นอาศัยของสัตว์ป่า แต่ยังผลักชนพื้นเมืองให้ออกจากบ้าน และปล่อยคาร์บอนจำนวนมหาศาลสู่บรรยากาศ นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า สิ่งมีชีวิตบนโลกกำลังสูญพันธุ์ด้วยอัตราเร็วที่สุดในรอบ 10 ล้านปี และสาเหตุหลักคือ การเปลี่ยนระบบนิเวศธรรมชาติให้กลายเป็นฟาร์มเกษตรอุตสาหกรรม

แต่ต้นทุนของ ฟาร์มอุตสาหกรรม ไม่ได้จบแค่ตัวเลขคาร์บอน มันยังแลกมาด้วย “ความทุกข์ทรมานของชีวิตนับล้าน” ทุกปี มีสัตว์บกกว่า 8 หมื่นล้านตัว ถูกฆ่าเพื่อผลิตเนื้อ นม และไข่ แม่ไก่ส่วนใหญ่ถูกขังในกรงที่เล็กกว่ากระดาษ A4 ลูกหมูถูกตอนโดยไม่ใช้ยาชา และการเพาะพันธุ์อย่างเข้มข้นทำให้แม่วัวต้องผลิตน้ำนมมากกว่าที่ลูกของเธอต้องการหลายเท่า จนร่างกายต้องแบกรับความเจ็บปวดมหาศาล

ขณะเดียวกัน ธนาคารและนักลงทุนทั่วโลกยังคงทุ่มเงินมหาศาลเข้าสู่ระบบเหล่านี้ รายงานจาก Feedback Global พบว่า เพียงกลุ่มประเทศ G20 ก็ได้สนับสนุนเงินให้บริษัทเนื้อและนมมากกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ระหว่างปี 2015–2021 กระแสเงินเหล่านี้คือเชื้อเพลิงที่หล่อเลี้ยงระบบที่กำลังทำลายโลกของเราอย่างเงียบๆ

ที่ Sinergia Animal เราทำงานเพื่อพลิกทิศทางของระบบอาหารโดยร่วมมือกับ Stop Financing Factory Farming (S3F) Coalition จัดงาน UNFCCC COP30 ครั้งแรก ของเราเพื่อผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบอาหารจากพืช (Plant-Based Transition) และระบบการเงินที่ยั่งยืน เวทีนี้จะเปิดพื้นที่สำหรับการพูดคุยถึงแนวทาง เปลี่ยนทิศทางเงินทุนจากฟาร์มอุตสาหกรรมไปสู่ระบบอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพราะการเปลี่ยนแปลงไม่จำเป็นต้องรอ สามารถเริ่มได้ทันที และขยายผลได้จริง

เมื่อมองผ่านเลนส์ของประเทศไทย

ปัญหานี้อยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด ภาคปศุสัตว์ของไทยถูกขับเคลื่อนโดยการผลิตขนาดใหญ่แบบอุตสาหกรรม ที่ควบคุมทุกขั้นตอนตั้งแต่การผลิตอาหารสัตว์ การเพาะพันธุ์ การเลี้ยง การฆ่า จนถึงการจำหน่าย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมไก่เนื้อและไข่ไก่ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว จนสามารถพึ่งพาตัวเองได้และผลิตส่วนเกินเพื่อการส่งออก

แต่เบื้องหลัง ความสำเร็จ นี้ คือชีวิตนับล้านที่ต้องอยู่ในพื้นที่แออัด เพียงในอุตสาหกรรมไข่ไก่ ประเทศไทยผลิตไข่มากกว่า 1.5 หมื่นล้านฟองต่อปีแต่แม่ไก่ส่วนใหญ่ยังคงถูกขังในกรงแคบ ไม่อาจขยับตัวหรือแสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติได้เลย

ยิ่งไปกว่านั้น ประเทศไทยยัง ไม่มีกฎหมายที่บังคับใช้เฉพาะชนิดสัตว์อย่างเคร่งครัด เกี่ยวกับการเลี้ยง การขนส่ง และการฆ่าสัตว์ในฟาร์ม ช่องว่างนี้ทำให้การคุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ประกอบการและนำไปสู่มาตรฐานที่ไม่เท่าเทียมกันทั่วทั้งอุตสาหกรรม

นี่คือเหตุผลที่ Sinergia Animal ทำงานร่วมกับบริษัทชั้นนำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Chatrium, Banyan Tree, Zen Group, Sukishi, Minor Food และ Minor Hotels เพื่อผลักดันให้พวกเขาเปลี่ยนมาใช้นโยบาย ไข่ปลอดกรง (Cage-Free Egg Policy) ปัจจุบัน ONYX Hospitality Group ได้เปลี่ยนมาใช้ไข่ปลอดกรง 100% แล้ว ขณะที่ Best Western ก็มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก โดยใช้ไข่ปลอดกรงถึง 70% ทั่วโลก ทุกความมุ่งมั่นเหล่านี้ส่งต่อข้อความเดียวกัน ความเมตตาและความรับผิดชอบ คืออนาคตของอุตสาหกรรมอาหารและการบริการ

แล้วเราจะเริ่มเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร?

เริ่มง่ายๆ จาก จานอาหารของเรา ทุกการเลือกซื้อคือเสียงหนึ่งเสียงที่กำหนดอนาคตของโลก

• เลือกสนับสนุนแบรนด์ที่ใช้ไข่ปลอดกรงและมีจริยธรรม

• ตั้งคำถามกับอาหารบนโต๊ะของคุณ

• แบ่งปันเรื่องราวเหล่านี้ต่อไป เพราะ ความตระหนักรู้คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง

ฟาร์มอุตสาหกรรมเติบโตจาก ความเมินเฉย และ เงินทุน วิธีเดียวที่จะยุติความโหดร้ายนี้ได้ คือการเปิดเผยให้โลกเห็นความจริง