“เนื้อหมูไร้ความทารุณ”รูปแบบใหม่ พร้อมตีตลาดไทย

Green Monday บริษัทสัญชาติฮ่องกงจะนำผลิตภัณฑ์ “เนื้อ”ที่ทำจากพืชเข้าตีตลาดประเทศไทยภายในไตรมาสที่สามของปีนี้ ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้แก่เนื้อเบอร์เกอร์ชื่อดังก้องโลกอย่าง Beyond Burger และ Omnimince เนื้อหมูบดจาก Omnipork นอกจากนี้ยังจะวางแผนจำหน่าย “เนื้อปลาไร้ปลา” จาก Gardein อีกด้วย

นอกจากจะหน้าตาเนื้อสัมผัสคล้ายกับเนื้อหมูจริงๆ แล้ว Omnipork ยังปลอดฮอร์โมน ยาปฏิชีวนะ ไม่ใช้พืชตัดแต่งพันธุกรรม และยังเหมาะกับผู้กินเจอีกด้วย

ถือเป็นข่าวดีสำหรับทั้งสัตว์และสิ่งแวดล้อม เนื้อหมูและอาหารทะเลเป็นอาหารยอดนิยมของชาวไทย จากสถิติ ในปี 2018 คนไทยบริโภคเนื้อหมูเฉลี่ย 10.65 กิโลกรัมต่อคน

เดวิด ยัง ผู้ร่วมก่อตั้ง Green Monday กล่าวกับเว็บไซต์ข่าวออนไลน์ FoodNavigator ว่า บริษัทฯ ค้นคว้าหาข้อมูลและวิจัยอย่างหนักเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีรสชาติถูกปากคนในประเทศต่างๆ กัน “รสนิยมของคนไทยต่างจากคนจีนและคนเกาหลีมาก ก็เลยต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการคิดและปรับรสชาติให้ถูกปากคนไทย ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จของผลิตภัณฑ์”

ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะตีตลาดประเทศจีนภายในสิ้นปีนี้ ในปี 2017 ประเทศจีนบริโภคเนื้อหมูกว่าครึ่งหนึ่งของเนื้อหมูทั้งหมดในโลก และแม้จะมีโรคไข้หวัดหมูระบาด ปริมาณเนื้อหมูที่บริโภคในประเทศจีนก็ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด

Omnipork และ Omnimince ทำจากถั่ว ข้าว เห็ดหอม และถั่วเหลือง ทำให้มีเนื้อสัมผัสและรสชาติคล้ายกับเนื้อหมูมาก แต่ไม่มีเชื้อโรคที่เป็นอันตรายต่อคน

เนื้อทางเลือกที่ผลิตจากพืชจะช่วยลดปริมาณการบริโภคเนื้อหมู และยังช่วยชีวิตหมูที่ต้องทนทุกข์ทรมานในอุตสาหกรรมการผลิตเนื้อได้อีกนับสิบล้านชีวิต

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราได้เผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับภาพถ่ายจากการสืบสวนของ ‘WeAnimals’ ซึ่งแสดงภาพหมูถูกคนงานในโรงเชือดทุบหัวด้วยไม้กระบอง หลายตัวถูกปาดคอให้เลือดไหลจนตายขณะมีสติรู้ตัวต่อหน้าต่อตาเพื่อนร่วมสายพันธุ์

Photo: Jo-Anne McArthur/We Animals

มีงานวิจัยหลายฉบับที่พิสูจน์แล้วว่าปลามีอารมณ์ความรู้สึกและรับรู้ความเจ็บปวดได้ และยังมีบุคลิกลักษณะเฉพาะตัว มีเพื่อน และเป็นสัตว์สังคมเหมือนกับมนุษย์และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายๆ สายพันธุ์

ข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติระบุว่า ระบบนิเวศในท้องทะเลกำลังถูกทำลายเนื่องจากการประมงพาณิชย์และการประมงผิดกฎหมาย สายพันธุ์ปลากว่า 64% ถูกจับเกินขนาด และงานวิจัยฉบับหนึ่งโดยมหาวิทยาลัยแฮลิแฟกซ์ระบุว่า ถ้าหากเรายังไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ภายในปี 2048 อาจจะไม่มีปลาหลงเหลือในท้องทะเลอีกเลย

ตอนนี้มีอาหารมากมายที่ทดแทนเนื้อสัตว์และเนื้อปลาได้ (และก็ยังจะมีเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ ) อีกทั้งอาหารทางเลือกเหล่านี้ยังดีตอสุขภาของเรามากกว่า ดีต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า และยังดีต่อสัตว์อีกด้วย ยังมีเหตุผลอะไรอีกที่ทำให้เราต้ตองกินเนื้อสัตว์ต่อไป เราอาจจะต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่าเรายังกินเนื้อสัตว์เนื่องจากความจำเป็น หรือเพราะความอยากของเรากันแน่