top of page

โปรแกรมเลิกเนื้อเพื่อโลกของเคมบริดจ์ ลดรอยเท้าคาร์บอนได้ 10%

มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ สหราชอาณาจักร ตัดสินใจถอดอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ออกจากรายการ และแทนที่ด้วยอาหารที่ทำจากพืช ศ.แอนดรูว บาล์มฟอร์ดศาสตราจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์กล่าวว่า นโยบายดังกล่าว “ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมหาศาล” โดยศ. แอนดรูว บาล์มฟอร์ดเป็นผู้ผลักดันให้เกิดนโยบายดังกล่าวเอง

หากให้อธิบายโดยละเอียด การปล่อยก๊าซคาร์บอนที่มาจากอาหารลดลงถึงหนึ่งในสามต่ออาหารหนึ่งกิโลกรัม และลดการใช้ที่ดินได้ถึง 28% ต่ออาหารที่ซื้อหนึ่งกิโลกกรัม โดยรวมแล้วการปล่อยก๊าซในการจัดหาอาหารลดลงถึง 10.5% ศ.บาล์มฟอร์ดยังกล่าวเพิ่มเติมกับสำนักข่าวบีบีซีว่า “คงไม่มีวิธีอื่นแล้วที่ลดการปล่อยก๊าซได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาอันสั้นเช่นนี้”

ผู้ประกอบอาหารได้รับการอบรมการประกอบอาหารวีแกน ส่วนผู้จัดการร้านกาแฟก็ได้รับการฝึกอบรมเรื่องความยั่งยืน ร้านค้ากว่า 14 ร้าน และงานอีเว้นท์ประจำปีกว่า 1500 ครั้งของเคมบริดจ์ได้ปรับใช้นโยบายดังกล่าวแล้วตั้งแต่เดือนตุลาคม 2016 (และก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก)

พฤติกรรมการทานอาหารของเราเป็นตัวการหลักที่นำโลกของเราไปสู่หายนะทางสิ่งแวดล้อมที่เราเผชิญอยู่ขณะนี้ และนี่ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ ผลิตภัณฑ์จากสัตว์เป็นสาเหตุเบื้องหลังของปรากฎการณ์ต่างๆ เช่น อากาศร้อนจัดที่สุดในประวัติศาสตร์โลกเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ธารน้ำแข็งในไอซ์แลนด์ละลายจนหมดเพราะภาวะโลกร้อน กระทั่งองค์การสหประชาชาติก็ยังเน้นย้ำว่าโลกเราต้องเปลี่ยนไปกินอาหารจากพืชเป็นหลักถึงจะต่อกรกับปัญหาโลกร้อนได้ แล้วยังไม่รวมถึงความโหดร้ายทารุณต่อสัตว์และผลกระทบต่อสุขภาพที่มากับการบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์อีก

นโยบายของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์เป็นตัวอย่างที่ดีซึ่งแสดงให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเพียงเล็กน้อย ไม่ได้ยากเย็นอะไร ของคนกลุ่มหนึ่งสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ต่อโลกของเราได้ ช่วยสัตว์นับพันๆ ชีวิตให้รอดพ้นจากคมมีด เพิ่มทางเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากกว่า และยังช่วยอนุกรักษ์สิ่งแวดล้อมของเราอีกด้วย

คุณเองก็อยากเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงใช่ไหมคะ เราอยากเชิญให้คุณมาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคของตัวคุณเอง และเลิกกินเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์ที่มาจากสัตว์ และช่วยเราเผยแพร่ความรู้ได้ โดยมาร่วมทีมอาสาสมัครของเรา

bottom of page