top of page

10 ตัวการ์ตูนที่เป็นมังสวิรัติหรือวีแกน

พอพูดถึงซูเปอร์ฮีโร่หรือวายร้ายคนโปรดของใครหลายคน โดยมากแล้ววิถีการบริโภคของพวกเขาจะเป็นปริศนา และด้วยอิทธิพลจากสปอนเซอร์โฆษณาหรือภาพจำเดิมๆ ที่มีมาในสังคม ทำให้การบริโภคเนื้อสัตว์ของตัวการ์ตูนบางตัว (เช่น โฮมเมอร์ ซิมป์สัน หรือ เฟรด ฟลินต์สโตน) เป็นที่รู้กันทั่วไปมากกว่าวิถีการบริโภคที่เห็นใจเพื่อนร่วมโลกของตัวการ์ตูนบางตัว


ตัวการ์ตูนต่อไปนี้ ไม่ว่าจะเป็นซุปเปอร์ฮีโร่หรือคนธรรมดา เป็นตัวการ์ตูนที่บริโภคอาหารแบบแพลนต์เบส ดังนั้นจึงถือว่าเป็นมิตรกับสัตว์ ยังไม่เพียงเท่านั้น บางตัวยังเป็นนักกิจกรรมเพื่อสิทธิสัตว์หรือสิ่งแวดล้อมอีกต่างหาก มาดูกันดีกว่าว่ามีใครบ้าง!


1. วันเดอร์วูแมน โดยเกร็ก รุคกา


เมื่อวันเดอร์ วูแมนถือกำเนิดในปี 1941 ชื่อของไดอาน่า พรินซ์(ชื่อจริงของวันเดอร์ วูแมน)ก็ได้จารึกลงในหน้าประวัติศาสตร์ ในฐานะตัวละครจากการ์ตูนเครือดีซีคอมิคส์ที่ทรงพลังที่สุด ไดอาน่าเป็นสมาชิกก่อตั้งของจัสติซ ลีก เป็นคนฉลาดเฉลียวและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น


ตอนที่เกร็ก รุคกาตัดสินใจให้ไดอาน่าเป็นมังสวิรัติ แฟนๆ ต่างก็บ่นกันเป็นรึ่มเพราะมีภาพจำว่านักรบที่มีพละกำลังแข็งแรงจะต้องกินเนื้อสัตว์


ไดอาน่าเป็นผู้หญิงแข็งแรงและมุ่งมั่น เธอเติบโตมาบนเกาะที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี ในเผ่าพันธุ์สตรีอมตะซึ่งยึดมั่นในสันติภาพและความเท่าเทียม พวกเขาจะใช้ทรัพยากรธรรมชาติเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และแน่นอนว่าไม่ฆ่าสัตว์เพื่อนำมากินเป็นอาหาร



2. พาเมลา ไอส์ลี่ หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ พอยซั่นไอวี่


พาเมล่าชอบปลูกพืช ฟังเสียงของพืช เลี้ยงดูพืชอย่างทะนุถนอม และนอกจากนี้ก็ยังดำรงชีวิตอยู่ด้วยการกินพืชเท่านั้น เพียงเธอดีดนิ้ว เหล่าพืชพรรณก็เติบโตชูช่อ เธอเป็นหนึ่งเดียวกับพืชพรรณ สัตว์ป่าและผืนดิน เพราะเธอมีคลอโรฟิลด์ในสายเลือด


ในตอนที่ชื่อว่า "ฮาร์วี่และไอวี่" เราจะเห็นว่าพาเมล่ากำลังกินแครอท มะเขือเทศ แตงกวา และผัดกาดหอม กับน้ำบีทรูท


ความสัมพันธ์ระหว่างพอยซั่นไอวี่กับพืชนั้นแนบแน่นเสมือนเป็นหนึ่งเดียวกัน อาจจะถึงขั้นเป็นมนุษย์ครึ่งพืช เธอมุ่งมั่นปกป้องต้นไม้ใบหญ้าและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นเหมือนลูกของเธอ



3. แอนิมอลแมน หรือ บัดดี้ เบคเกอร์


แกนเรื่องหลักของการ์ตูนชุด “เดอะ บัดดี้ แอนิมอล แมน” คือวิถีมังสวิรัติของเขาและความมุ่งมั่นในการรณรงค์เพื่อสัตว์ เขามีซูเปอร์พาวเวอร์คือการยืม ความสามารถพิเศษของสัตว์มาใช้ได้ชั่วคราว (ตัวอย่างเช่น ความสามารถการฟังของค้างคาว) เขาใช้พลังพิเศษนี้ต่อสู้อาชญากรรม เขาไม่ยุ่งเกียวกับความโหดร้ายทารุณโดยการไม่บริโภคอะไรก็ตามที่มาจากสัตว์



4. อีริก เลห์นฮ์แฮร์ หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ แมกนีโต้


แม้จะเป็นตัวร้ายในจักรวาลมาร์เวล แต่แมกนีโต้ก็มีความเห็นอกเห็นใจอยู่ในตัว อย่างน้อยก็ต่อสัตว์ แม็กนีโต้เชื่อว่าพวกมิวแทนท์เหนือกว่ามนุษย์และมีสติปัญญาสูงกว่ามนุษย์


ถึงแม็กนีโต้จะเป็นมังสวิรัติ แต่เขาชอบพูดบ่อยๆ ว่าเคยกินเนื้อมนุษย์และเคยปรุงเนื้อมนุษย์ให้มิวแทนท์คนอื่นๆ กิน



5. ดาเมี่ยน เวย์น หรือหรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ โรบิน


ดาเมี่ยน เวย์น ลูกชายของโรบินและบรูซ เวย์น เขาเริ่มเป็นมังสวิรัติในปี 2012 ซึ่งในหนังตอนนี้แบตแมนและดาเมี่ยนช่วยวัวออกจากโรงฆ่าสัตว์ หลังจากนั้นดาเมี่ยนก็ประกาศตัวเป็นมังสวิรัติและตั้งชื่อเล่นให้วัวตัวนั้นว่า Bat-Cow (วัวค้างคาว)


เป็นที่น่าสนใจว่า Bat-Cow กลายเป็นตัวละครตัวหนึ่งในครอบครัวแบตแมน เคยปรากฏตัวในสื่อ รวมถึงวีดีโอเกม Lego Batman และหนังสือการ์ตูนสำหรับเด็กหลายเรื่อง



6. ดร. บรูซ แบนเนอร์ (ร่างมนุษย์ของ เดอะ ฮัลค์)


จากหนังสือการ์ตูน Ultimate Wolverine VS Marvel's Hulk บรูซรักษาสุขภาพ ทำสมาธิ เล่นกีฬา และกินอาหารวีแกน เพื่อให้ควบคุมร่างเดอะ ฮัลค์ มนุษย์ยักษ์ตัวเขียวนิสัยโหดร้ายโกรธเกรี้ยวได้ เนื่องจากว่าเมื่อกลายร่างเป็นเดอะ ฮัลค์แล้วอาจขาดสติจนกินมนุษย์ได้



7. ซุปเปอร์แมน โดยมาร์ค เวด


เนื่องจากว่าคลาร์ก เค้นต์เติบโตในมลรัฐแคนซัส ซึ่งเป็นรัฐที่มีชื่อเสียงด้านการทำไร่ข้าวสาลี คนทั่วไปจึงเชื่อกันว่าคลาร์ก เค้นต์จะต้องกินอาหารแบบชาวนาอเมริกันในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 แต่ความเชื่อนี้ก็ตกไปเมื่อซูเปอร์แมนปรากฏตัวในหนังสือการ์ตูน Birthright เล่มที่ 2


ในปี 2003 มาร์ค เวด และเลนิล ฟรานซิส ยู รื้อและสร้างภูมิหลังของบุรุษเหล็กซูเปอร์แมนเสียใหม่ และทำให้เขาเป็นมังสวิรัติ ในหนังสือการ์ตูนชุดนี้เล่าว่า ซูเปอร์แมนรู้สึกละอายอยู่ลึกๆ ที่ต้องคร่าชีวิตผู้อื่นจึงเลิกบริโภคเนื้อสัตว์ ซึ่งเป็นอาหารที่ต้องคร่าชีวิตมาจากสัตว์ เขามีพลังพิเศษที่ทำให้มองเห็นเส้นทางวิญญาณเมื่อหลุดลอยจากร่างไร้ชีวิต ทำให้เห็นว่าทั้งมนุษย์และสัตว์ ต่างก็มีวิญญาณและมีวาระสุดท้ายของชีวิตที่คล้ายกัน



8. บ๊อบบี่ ฮิลล์


"And They Call It Bobby Love" เป็นชื่อตอนที่สอง ในซีซั่นสาม ของภาพยนต์การ์ตูนแอนิเมชั่น King of the Hill ซึ่งออกอากาศทางช่องฟ็อกซ์ แม้ว่าพ่อแม่ของบ๊อบบี้เป็นสายเนื้อตัวยง แต่บ็อบบี้ยอมกลับใจมาเป็นมังสวิรัติ เพื่อทำให้มารี สาวมังสวิรัติประทับใจ



9. แชคกี้ จาก สกูบี้ดู


ในตอนหนึ่งของภาพยนต์การ์ตูนชุดนี้ นักร้องชื่อว่าเซีย พยายามจูงใจให้สกูบี้และแชกกี้เป็นวีแกนโดยการเสิร์ฟพายวีแกนให้ลองชิม แชกกี้เปรยกับสกูบี้ว่า “ใครจะอยากไปนั่งเฝ้ายาม ถ้าได้มานั่งกินของอร่อยกับเซียแบบนี้” และ สกูบี้เสริมว่า "นั่งกินวีแกนอีกตะหาก" หลังจากนั้นเมื่อทั้งสามคนไปอีกห้องในบ้านของเซีย ซึ่งเต็มไปด้วยพายวีแกน ทุกคนต่างก็เอาหน้ามุดกินพาย สลับกับเงยหน้าขึ้นมาดูดสมูทตี้นมพืชอย่างเอร็ดอร่อยนอกจากนี้ ในหนังเรื่อง Scooby-Doo: The Movie ซึ่งออกฉายในปี2002 ก็มีตอนหนึ่งที่แชกกี้กินเวจจี้เบอร์เกอร์


นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ นักพากย์เสียงแชคกี้คือ เคซี่ กาเซ็ม นักจัดรายการวิทยุชื่อดัง ซึ่งเป็นวีแกน และมักจะพูดเรื่องสิทธิสัตว์และสิ่งแวดล้อมออกรายการวิทยุเสมอ จริงๆ แล้วกาเซ็มรับบทเป็นแชกกี้ตอนเริ่มซี่รี่ตั้งแต่ปี 1969 ถึง 1997 แต่ก็บอกลาบทนี้ไปเมื่อถูกขอให้นำเสียงของเขาไปใช้ในโฆษณาเบอร์เกอร์คิง



10. ลิซ่า ซิมสัน


เมื่อซีรีสืเดอะ ซิมพ์สัน ตอนที่ชื่อว่า "Lisa the Vegetarian" หรือ”ลิซ่า สาวมังสวิรัติ" ออกอากาศ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 1995 ลิซ่า ซิมพ์สัน ก็ได้กลายเป็นภาพแทนของคนที่ปกป้องสัตว์และสิ่งแวดล้อม




ในตอนนี้ลิซ่าบังเอิญไปพบแกะน้อยน่ารัก ทำให้เด็กสาวนักแซกโซโฟนวัยเพียงแปดขวบผู้นี้ ฉุกใจคิดว่ามันคุ้มค่าหรือไม่ที่จะต้องกินสัตว์เพื่อตอบสนองความหิว


ไม่ได้มีแค่ลิซ่าที่คิดเช่นนี้ เธอมีเพื่อนมังสวิรัติซึ่งช่วยเธอในช่วงเปลี่ยนผ่านของชีวิต อาปู เจ้าของตลาด ผู้ใช้ชีวิตแบบเป็นมิตรต่อสัตว์โลกอยู่ก่อนหน้าแล้ว และได้เอาเต้าหู้มาทำเป็นฮอทด็อกที่ร้านแทนเนื้อสัตว์โดยไม่มีลูกค้าคนไหนสังเกตความแตกต่างของรสชาติ


พอล แมคคาร์ทนี่ย์ และลินดา ภรรยาของเขา ก็มีส่วนช่วยลิซ่ากับเขาด้วยเหมือนกัน ศิลปินชาวอังกฤษผู้นี้ตกปากรับคำจะมาเป็นแขกรับเชิญในเดอะ ซิมพ์สัน โดยมีข้อแม้ว่าลิซ่าจะต้องเป็นมังสวิรัติไปตลอดซี่รี่ส์ ลินดาให้สัมภาษณ์กับนิตยสารบันเทิง Entertainment Weekly ว่า ตอนนี้เป็นโอกาสให้เธอและสามีที่ “เผยแพร่วิถีมังสวิรัติไปสู่กลุ่มคนในวงกว้าง”


ในตอนนี้ ลิซ่ากับบาร์ทดูการ์ตูนเรื่อง Itchy & Scratchy อยู่ด้วยกัน

ลิซ่า: "ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าการ์ตูนเรื่อง Itchy & Scratchy บางตอน มันปลูกฝังให้เราคิดไปว่าความรุนแรงต่อสัตว์เป็นเรื่องตลก"


บาร์ท: "จะบ้าเหรอลิซ่า การ์ตูนปลูกฝังอะไรไม่ได้หรอก"


โชคดีที่บาร์ทเข้าใจผิด การ์ตูนและหนังสือการ์ตูนนั้นมีอิทธิพลต่อการมองโลกของเรา หล่อหลอมให้เรารับวิถีแบบใหม่ หรือคงวิถีเดิมไว้ ผลผลิตทางวัฒนธรรมเช่นนี้ช่วยให้เราได้คิดทบทวนสิ่งดีงามและเลวทราม กระตุ้นให้เราตั้งคำถามกับค่านิยมของสังคม


ถ้าหากว่าคุณยังไม่ได้เป็นวีแกน อยากลองมาแนะนำให้ทำตามซูเปอร์แมน พอยซั่นไอวี่ หรือเดอะ ฮัลค์ คุณจะรู้สึกแข็งแรง สุขภาพดี และมีพลังมากกว่าเดิม หากอยากเริ่มต้นแต่ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงดี คลิกที่นี่เลย!


ตั้งแต่ตอน "ลิซ่าเป็นมังสวิรัติ" ในยุคแรกๆของซี่รี่ส์ เดอะซิมสัน ออกอากาศเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 1995 ลิซ่าเป็นตัวอย่างของคนที่ปกป้องสัตว์และสิ่งแวดล้อม


เนื้อเรื่องเกี่ยวกับ ตอนที่ลิซ่ามีโอกาสเจอแกะน้อยตัวเล็กน่ารัก ซึ่งทำให้นักเล่นแซกโซโฟนหญิงคิดได้ว่ามันมีคุ้มค่าเหรอที่จะต้องกินสัตว์เพื่อให้หายหิว


ลิซ่าไม่ได้คิดแบบนี้คนเดียว เธอมีเพื่อนที่เป็นมังสวิรัติที่ช่วยเธอเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอ อาปู เจ้าของตลาด ผู้ใช้ชีวิตแบบเป็นมิตรต่อสัตว์โลกและได้เปลี่ยนฮอทดอกที่ร้านของตัวเองเป็นฮอทดอกทำจากเต้าหู้ โดยไม่มีใครสังเกต


พอล แมคคาร์นี่ และลินดาภรรยาของเขา ได้ช่วยลิซ่าด้วย ศิลปินชาวอังกฤษตกลงที่จะปรากฏตัวในเดอะซิมสัน แต่มีข้อแม้ว่าลิซ่าจะต้องเป็นมังสวิรัติไปตลอดซี่รี่นั้น ลินดาบอก Entertainment Weekly ว่า ตอนนั้นเป็นโอกาสของเธอและสามีที่จะส่งต่อคำว่า มังสวิรัติไปถึงผู้ฟังกลุ่มใหญ่ขึ้น


ลิซ่า, "ฉันไม่เคยต้องแสดงมาก่อน แต่มีตัวการ์ตูนตัวนึงส่งข้อความมาบอกว่า ความรุนแรงต่อสัตว์นั้นเป็นเรื่องตลก

บาร์ทบอกว่า ตัวการ์ตูนส่งสารไม่ได้นะ ลิซ่า"


แต่ว่า ในความเป็นจริง โชคดีจริง ๆ ที่บาร์ทเข้าใจผิด การ์ตูน หนังสือการ์ตูนนั้นมีอิทธิพลต่อวิถีที่เรามองโลกและช่วยให้เราเปลี่ยนนิสัย หรือทำนิสัยแบบเดิม ผลผลิตทางวัฒนธรรมนี้ ช่วยให้เราได้มองย้อนกลับมาว่าอะไรดีหรือไม่ดี ถามถึงคุณค่าของเราและนิยามของสังคม และมีตัวการ์ตูนให้เราได้เลียนแบบ


ถ้าหากว่าคุณยังไม่เป็นวีแกน ทำไมคุณไม่คิดจะทำตามซุปเปอร์แมน พอยซั่นไอวี่ หรือเดอะฮัลค์ล่ะ คุณจะรู้สึกแข็งแรง สุขภาพดี และมีพลังมากกว่าเดิม คลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับอาหารแพลนเบส


Comments


bottom of page